วันเสาร์ที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2560

แผนกับม้า ปกรณ์ นิลประพันธ์

แผนนี่เป็นอะไรที่ดีนะครับ ทำอะไรต้องวางแผนก่อน เวลาทำงานจะได้เป็นระบบระเบียบเรียบร้อย 
ในทางทฤษฎี แผนจะทำให้เราคิดเสียให้รอบคอบก่อน ไม่บุ่มบ่ามทำอะไรลงไปโดยไม่คิดหน้าคิดหลัง ต้องคิดว่าเราจะทำอะไร มีต้นทุนเท่าไร อะไรคือผลผลิต อะไรคือผลลัพธ์ อะไรคือตัวชี้วัดความสำเร็จ คุ้มที่จะทำไหม อะไรเป็นปัญหาหรือผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น มีหนทางป้องกันหรือแก้ไขปัญหาหรือเยียวยาผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นอย่างไร 

พอคิดแผนเสร็จแล้วก็ต้องลงมือทำให้เป็นไปตามแผนด้วยนะครับ ไม่ใช่มัวทำแผน แต่ไม่ลงมือทำตามแผนเสียที ผลสัมฤทธิ์มันก็ไม่เกิด อันนี้เสียเวลาทำแผน เปลืองกระดาษด้วย โลกร้อนเสียเปล่าไม่เข้าการ

และถ้าลงมือทำตามแผนแล้วเกิดปัญหาอุปสรรคใด ที่คิดไม่ถึงในตอนแรก นักวางแผนก็ต้องปรับแผนให้เข้ากับสถานการณ์ด้วย ไม่ใช่ทำแผนเสร็จแล้วก็จบกันไป ไปวางแผนใหม่กันอีกแล้ว ลืมแผนเก่าเสียอย่างนั้น

ถึงการวางแผนจะเป็นเรื่องที่ดี แต่ถ้ามีแผนเยอะ นี่ก็สร้างความปวดหัวได้ไม่น้อยเหมือนกันนะครับ ไม่รู้จะทำอันไหนก่อนอันไหนหลัง เพราะทุกแผนเป็นเรื่องสำคัญ ยิ่งถ้านักวางแผนมีทัศนวิสัยในการมองเห็นเหมือนม้าแข่งยิ่งปวดศีรษะไปกันใหญ่ 

ที่เทียบกับม้าแข่งนี้ไม่ใช่ว่าดีเพราะวิ่งเร็วนะครับ แต่ม้าแข่งนี้เขาต้องหาอะไรมาครอบตาไว้ให้มองตรง ไม่งั้นมันวอกแวก มุมมองของม้าแข่งจึงเป็นมุมมองเรื่องตรงหน้าของตัวเองเท่านั้น ไม่ได้มองไปรอบ

ผลที่ตามมาก็คือแผนเยอะ ที่ทำแบบม้าแข่งนี้มันไม่ประสานสอดคล้องกัน เวลาทำงานตามแผนจึงกลายเป็นต่างคนต่างทำ เรื่องนึงบางทีมีแผนเข้ามาเกี่ยวข้องหลายแผน คนทำตามแผนแต่ละแผนก็หลายคนหลายหน่วย งานการจึงสับสนวุ่นวายไปหมด เหมือนม้าแข่งที่มัววิ่งชนกันไปมา บ้างก็ขวางม้าอื่น ผลคือทุกม้าวิ่งเต็มที่ แต่เป็นการวิ่งชนกันเอง ไม่ไปถึงเส้นชัยสักที 

ในทัศนะของผู้เขียน หน่วยทำแผนภาพรวมควรมีหน่วยเดียวพอ แต่เป็นหน่วยที่มีวิสัยทัศน์เหมือนม้าป่าไม่ใช่ม้าแข่งที่มีครอบตา เพราะม้าที่ไม่ใส่ครอบตานี่สามารถมองได้เกือบ 360 องศา หน่วยนี้จะได้วางแผนที่ครอบคลุมเรื่องต่าง โดยสอดคล้องกัน การทำงานตามแผนก็จะประสานรับกัน ไม่สับสน

ม้าจะได้วิ่งฉิวไปข้างหน้า ไม่เสียเวลาวิ่งชนกันเองให้เสียเวลา.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น